ตกเย็นแอบติดรถนายเข้าเมือง ทุกวันต้องขึ้นรถบัสบริษัทซึ่งกว่าจะออกก็สองสามทุ่ม ไม่ได้เห็นเดือนเห็นตะวัน วันนี้กลับมาถึงตั้งกะหกโมงเลยออกเดินเล่นในเมืองหน่อย จากโรงแรมมาหนึ่งบล็อกจะเป็น main station (ซ้ายมือที่เป็นโดมๆจ้ะ) เลี้ยวขวาก็จะเข้าเขตเมืองเก่า (มีกำแพงเมืองเหมือนเจียงใหม่)
ที่นี่ข้ามถนนกันเรียบร้อยเพราะค่าปรับแพงมั่กๆ ถนนโล่งขนาดไหนก็รอสัญญาณไฟเขียว จักรยานเป็นพาหนะปกติของคนในเมืองและนักท่องเที่ยว แท็กซี่ก็ใช้รถโลคอลๆ เบ็นซ์ บีเอ็ม ออดี้ ประมาณนี้

เวลาประมาณสองสามชั่วโมง ก่อนมืด เราจะเดินกันตรงๆก่อน

ย่านเมืองเก่าที่รอดพ้นระเบิดยุคฮิตเล่อร์มาบางส่วน ชาวเมืองก็ยังรักษาตึกเหล่านี้ไว้ เข้าประตูมาเป็นบ้านช่างศิลป Handwerkerhof


โบสถ์ St Clara ตึก ตึก ตึก แถวลานรำลึก ประตูทองแดงนั่นเป็นอนุสาวรีย์จ้ะ Have faith …Do not lose hope

Town Hall กำลังบูรณะอยู่ อดดูเลย f(. .;) สังเกตุการกั้นเขตก่อสร้างบ้านเขาทำได้สวยงาม
เดินตรงไปเรื่อยหมายตายอดโบสถ์เอาไว้ โบสถ์ St Lorenz เป็นโบสถ์ตรงกลางเมือง ฝนตกพอดี บรรยากาศอึมครึมประหนึ่งกองถ่าย Jack the Ripper

เป็นโบสถ์นิกาย Evangelical Lutheran ศิลปะแบบ Gothic ระเบิดลงพังไปเยอะ จะเห็นโครงลวดตาข่ายอุ้มหินแกะสลักลอยตัวต่างๆไว้



ลานหน้าโบสถ์ กางร่มขายส้มสูกลูกไม้ ของกินต่างๆ เหมือนวัดบ้านเราจ้ะ


พีช เนคทารีน ลูกใหญ่กว่ากำปั้นหน่อย ~1Euro พวก Berries ~2Euro/ขีด เดินกินแก้หิวได้สบายท้องจ้ะ เห็ดทั้งหลายนี่อีสานอย่างป้ายังอาย
ข้ามคลอง เอ๊ย แม่น้ำ Pegnitz ตรง Musuembrucke ตรงนี้มีเวิ้งๆถ่ายรูปตอนกลางวันน่าจะสวย เห็นวิวข้างหลังเป็น Heilig-Geist-Spital บ้านพักคนชราของหลวง ขุนนางเก่าสร้างเป็นสาธารณะกุศลไว้เมื่อ ๗๐๐ ปีที่แล้ว ยังใช้ได้จนปัจจุบันจ้ะ

เดินเรื่อยๆมาต่อจะเจอประติมากรรม Narrenschiffbrunnen (the Ship of fool) งานเขียนเสียดสีศาสนจักร อันนี้ก็ไม่เคยอ่านเรยไม่เข้าใจประเด็นเท่าไหร่ เด็กๆนั่งเล่นกันน่ารักดี

บล็อกถัดไปเป็นเป้าหมาของคืนนี้ สแควร์ตรงโบสถ์ Frauenkirche และน้ำพุ Schöner Brunnen น้ำพุเก่าแก่อายุ 600 ปีสร้างด้วยสัญลักษณ์คติแทนศาสนจักร รั้วเหล็กรอบๆนี่สร้างทีหลัง เป็นเหล็กสีดำ มีวงแหวนวงหนึ่งเป็นสีทอง ว่ากันว่าอธิษฐานแล้วหมุนสามรอบ จะได้สมปราถนา หุหุหุ
ด้านหน้าเป็น Hauptmarkt โบสถ์ Frauenkirche ตอนกลางวันค่อยกลับมาดูใหม่เพราะมีนาฬิกา cookoo Männleinlaufen ด้านบนจะเปิดออกมาตอน 12:00
เดินต่อถัดไป St Sebald (Lutherian) นักบุญประจำเมืองเนินแบร์ก โบสถ์ยุคกลางแบบโรมันบาซิลิกา 2 หอคอย (choirs) ข้างในตกแต่งแบบบาโรค เก่าที่สุดในเมืองอายุราวๆ ๗๐๐ ปี เก่าพอๆกับ St Lorenzkirche กับ Frauenkirche





ข้างในสงบน่านั่งมาก นั่งอยู่นาน ถ่ายรูปมุมโน้นมุมนี้สักพักก็เกรงใจ



กระจกสี ออร์แกนกับสถูปกลาง หลุดรอดสงครามมาได้ อืม ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ
หุลุดจาก St Sebald (Lutherian) มาได้ก็เดินเล่นต่อสักพักจนมาถึงปราสาทเชิงเขา สุดทางตามแผนที่พอดี แต่กว่าจะถึง gate ก็ 7pm ปราสาทปิดแล้ว ทั้งกล้องทั้งคนแบตหมดพอดีด้วย

หาไส้กรอกกินแล้วก็ไปนั่งฟังคอนเสิร์ตที่สนามหญ้าหน้าปราสาทจนสามทุ่มกว่าถึงเดินกลับโรงแรม
ขึ้นลงเขานี่ เหนื่อยแบบว่าสุดๆ แตก็…ช่างเป็นเมืองที่น่าอยู่เสียนี่กระไร
