ตาอ้วนแย่แล้ว

สองอาทิตย์นี้ไม่ได้ทำอะไร งานที่ทำงานยุ่งมากและตาอ้วนถูกรถชน เสาร์อาทิตย์เลยชิ่งกลับบ้าน
บินกลับคืนวันศุกร์ ถึงสนามบินก็ต่อรถไปโรงพยาบาลเลย
สงสารน้องนอนแขนขาหักไปไหนไม่ได้ ปวดหลังน่าดู แต่ก็ดีที่หัวไม่แตก หลังไม่หัก ปากก็ยังดีอยู่
ก็ดู ดูกันไป กำลังใจดี เดี๋ยวก็หัดเดินได้

ส่วนตัวป้าก็ได้หอพักแล้ว พี่ตัวเล็กเขาย้ายออกวันที่ ๓๑ ป้าก็เสียบต่อวันที่ ๑ กันยาทันที รีบๆโยนของไว้แล้วไปทำงาน ตกเย็นกลับมาที่ห้อง ยังงงจุดขึ้นลงรถอยู่ ลงไม่ถูกที่ แต่เดินไปเดินมาก็โอเค กลางคืนแถวหอป้าไม่เปลี่ยว

มาถึงห้องเห็นกระเป๋าที่โยนๆไว้ จะจัดของ ห้องก็ยังไม่ทำความสะอาด คิดว่าทำก่อนจัดของจะง่ายกว่า ก็นอนเลยซักผ้า อาบน้ำนอนไปทั้งยังงั้น ห้องยังเป็นกลิ่นผู้ชายอยู่เรย ระดม Glade Clean Air เข้าไป หอมได้สักพักก็กลับมาเป็นกลิ่น 4711 อักละ f(. .;) ป้าก็เลยไม่พยายาม อีกสักอาทิตย์มันคงเปลี่ยนมาเป็นกลิ่นข้าวคั่ว ส้มตำปลาร้าตามป้าเองแหละ
แล้วสักเที่ยงคืนก็หลับไปเพราะความเหนื่อย
หลับได้สักพักก็ตื่นเพราะหนาว ป้ายังไม่มีผ้าห่ม เลยต้องปิดแอร์แล้วไปลากพัดลมข้างนอกมา เดีํยวกลับมาคงต้องไปช้อปเป็นการใหญ่ อะไรๆก็ไม่มี

เช้าวันศุกร์เป็นวันหยุด วันชาติหรืออะไรเนี่ยแหละ กว่าป้าจะนอนตื่นก็แปดโมง กินขนมไหว้พระจันทร์ไปสองลูกใหญ่ก็ยังไม่อิ่ม เลยต่อด้วยมาม่าผัดเบคอนชีส (ชีสที่นี่เหมือนจะถูกกว่าที่ไทย ป้าเลยสอยทุกมื่อ จะอ้วนตายเพราะความงกเนี่ยแหละ)

คิดว่าห่อเดียวน่าจะอยู่ แต่ก็ไม่ จบด้วยมาม่าสองห่ออีกละ เซ็งจิต
สงสัยติดนิสัยกินข้าวเช้าหนักๆจากการอยู่โรงแรมมาเป็นเดือน

กลางวันเเพ็คของกับทำการบ้านเตรียมประชุมอาทิตย์หน้า คืรนี้ก็จะได้กลับบ้านไปหาหม่ามี้กะตาอ้วนอีกที

วันจันทร์ต้องไปกงสุลเวียดนามเพื่อ legalize เอกสาร ก่อนกลับมาต่อเครื่องไปประชุม นายก็สุดแสนจะ efficient ส่ง message นัด one-on-one ระหว่างบิน เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา

คือกะจะไม่ให้ได้เป็นสุขกันเลยหรือยังไง





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น