ระหว่างที่ป้ายังไม่มีที่อยู่เป็นหลักเป็นแหล่ง ยังไม่ได้ซื้อซิมโทรศัพท์กะต่อเน็ต ขออนุญาตเขียนจดหมายน้อยถึงเจ้าคุณย่ากับสหายป้าๆทางบ้านเป็นการบอกเล่าเก้าสิบไปพลางๆก่อนนะจ้ะ
ชีวิตของสาวโรงงานเบี้ยน้อยหอยน้อยในโลกกว้างนั้นช่างลำบากยากเข็ญยิ่งนัก นอกจากจะต้องผจญภัยกับสมาพันธ์นางอิจฉาแห่งชาติที่จับมือกันบอยคอตป้า(โทษฐานที่สวยกว่า)อย่างไม่เลิกรา (วันหลังค่อยเล่า) แล้วยังต้องรับมือกับความโหดร้ายของโลก ที่ว่าพนักงานรายเดือน จะได้เงินเดือนเป็นระบบ post paid
ป้านะ ตั้งปณิธานไว้เลยว่า ถ้าได้เป็นนายกหญิงบ้าง ป้าจะผลักดัน Prepaid ไปใช้กับแรงงานไทยให้ได้
เรื่องของเรื่องก็คือ พอมันต้องทำงานแล้วถึงได้เงิน ชีวิตเดือนแรกของสวยใสไฮโซอย่างป้าเลยต้องเข้าสู่วงจรดักแด้ เก็บเนื้อเก็บตัวอยู่ในโรงแรมรอเวลาผลิปีกเป็นผีเสื้อโบยบินเมื่อเงินเดือนออก
แต่ชีวิตแบบผู้ดีตกยากก็ไม่ได้ทรมานอะไร ใช้ชีวิต ชิลๆ แบบอิ่มจังตังค์อยู่ครบ
ตื่นเช้าก็ออกมาจิบกาแฟที่ล๊อบบี้ดื่มด่ำกับบรรยากาศสวนสาธารณะ
เอ่อ คุณผู้ชมก็ กรุณาจินตนาการหญิงใหญ่แบบสมัยอยู่แพรีสซ์ซ์หน่อยละกัน
Imagination |
|
vs Reality
ที่นี่สวนสาธารณะดีมีน้อย (เอ หรือ คนเขาเยอะหว่า) ที่เห็นๆก็จะเป็นแถบหญ้าแนวเล็กแทรกตัวตามย่านเมือง ตรงใหนโล่งโปร่ง งามหน่อย ก็จะมีคนมาใช้บริการมากมาย ทั้งอาม่า อาอึ้ม อาแปะ อาโกว มารำมวยจีนกันกระฉับกระเฉง หนุ่มสาวไม่ค่อยเห็นไม่รู้อยู่ไหนกันหมด ตามริมถนนก็มีหาบเร่ยองยองเหลาประปราย
จิบกาแฟนอกตึกพอให้คลายคิดถึงชีวิตสมัยที่โตที่อังกฤษ (ว่าไปนั่น) ก็ย้ายเข้ามาข้างใน เพื่อรับอาหารเช้า
อาหารเช้าโรงแรม
ของกินที่แถมมากับห้องก็จัดให้เลือกพอไม่ให้น่าเกลียด คือประมาณว่ายุโรป (สลัด ซีเรียล แพนเค้ก) อเมริกา (ขนมปัง ไข่ดาว ไส้กรอก) จีน (ขนมจีบ) ญี่ปุ่น (มิโสะซุป) เวียดนาม (เฝอ) อินโดจีน(ข้าวผัด หมี่ผัด) เอาเป็นว่ามีไม่กี่อย่าง แต่ฉันก็ international breakfast นะยะ
ของกินหน้าตาเป็นจังซี่ๆ บ่นเขาเยอะแยะ แล้วก็กินยัดทะนาน ที่เห็นถ่ายรูปมากินหมดเลียจานทุกสิ่ง
ทำไมฉันกินเยอะยังงี้ฟระ จุกจนขยับไม่ล่าย
รับอาหารเช้าแล้วก็ย้ายตรูดมารอรถราชรถไปโรงงาน
รถบัสไปทำงาน
เนื่องจากป้ากลัวตกรถ (ไม่ใช่ไร ไม่มีตังค์ค่าแท็กซี่ไปโรงงานเอง )เลยมาก่อนเวลาทุกวัน
ก็อีกแหละนะ จุดรับส่งมันอยู่หน้าโรงแรมนั่นแหละ จะสายก็จะถูกครหาได้
รถกะบะบรรทุกหมูไปเชือด ก็ไม่ได้แออัดอะไรแต่ก็นะ เผอิญขาป้าก็ยาวเรียวงามเลยรู้สึกว่าอยากจะเหยียดกว่านี้สักหน่อย (ว่าไปนั่น)
ที่มาคุหน่อยก็คือ บรรยากาศในรถไม่มีใครพูดกับใครเลย เผอิญป้ามีเพื่อนในแผนกเดียวกันขึ้นรถคันนี้ด้วย ก็เลยอย่างน้อยได้ยิ้มให้กัน
รถออกจากในเมือง (เขต ๑) ๗.๒๐ น. เดินทางผ่านเมือง ข้ามแม่น้ำไปนอกเมือง
ข้างทาง
ตึกตัวเมืองแบ่งเป็นโซนที่เจริญๆไปเลยคือเป็นห้าง ร้านขายของหรูๆสำหรับนักท่องเที่ยวมีระดับ (ซึ่งก็เห็นว่างเป็นป่าช้า) หรือไม่ก็เป็นบ้านเมืองเก่าๆโทรมๆที่แออัดๆดูเลอะเทอะเน่าๆหน่อย บ้านเรื่อนที่ดูดีๆใหม่ๆมักอยู่นอกเมือง โผล่ขึ้นมากลางทุ่ง คือเป็นของที่สร้างขึ้นมาทีหลัง หรือไม่ก็ renovate ข้างในใหม่แบบนึกไม่ถึงว่าตรอกที่โทรมเหมือนผ่านสงครามเก้าทัพอย่างนี้พอเปิดประตูเข้าบ้านมา โอ้โห พารากอนหรืออะไรเนี่ย
ของกินข้างทางที่อยากแวะลงไปชิม เป็ด ขนมไหว้พระจันทร์
Che หรือของหวานน้ำแข็งใส
มาถึงหน้าโรงงานแปดโมงนิดๆ ก็เข้าไปตอกบัตร ตามประสาสาวโรงงาน
ตอนนี้ป้านั่งโต๊ะคนที่เขาลาคลอดไปก่อน ข้อดีไม่มี ข้อเสียคือแยกตัวออกมาจากทีม ทำให้รู้สึก Home Alone (เกิดทันกันป่าวเนี่ย)
เพื่อน
ตอนนี้ก็เหมือนนางเอกหนังไทยทั่วไป ที่แรกๆใครๆก็ไม่เข้าใจ ใครๆก็กลั่นแกล้ง ไม่มีใครคบขมเลย
ความจริงคือ ป้าก็เผอิญเป็นนางเอกแบบอั้มพัชราภา ชมพู่เรญา อะไรงี้ด้วยแหละ เถียงเขาฉอดๆเขาเลยไม่ปราณี
คือคนที่คบๆก็คือต่างด้าวด้วยกันเป็นหลัก เข้าใจว่าการมาค้าแข้ง ขายแรงงานต่างแดนนั้นมันก็ต้องถูกดูหมิ่นดูแคลน ไม่ได้รับความสะดวกสบายเป็นธรรมดา
ก็ได้เพื่อนๆที่พึ่งมาอยู่นี่แหละ ลากไปกินข้าว ชวนดูหนัง ฟังเพลง แนะเรื่องบ้านช่องห้องหอ
กะมีเพื่อนเก่าสาวเวียดนามที่มารับไปกินข้าวบ้าน เลี้ยงอาหารเสร็จสรรพ น่ารักจริงๆ
โรงอาหาร
พอใช้แรงงานเสร็จก็ให้อาหาร เอ๊ย เี้ลี้ยงข้าว คือก็ไม่มีอะไรอีกแหละ เนื่องจากโรงงานอยู่นอกเมือง ถ้าปล่อยให้แต่ละคนออกไปหาอะไรกิน คงเสียเวลางานกันน่าดู ที่นี่เลยจัดหาของกินให้ตามสมควร มันจะได้ไม่มีข้ออ้างออกไปข้างนอกกัน
Lunch ก็ไม่ใช่ขี้ๆนะจ้ะ ที่นี่ ชีบอกว่าเรา provide 2 styles of main course (Asian & Euro), Soup, Salad, Fruit plates อะไรทำนองนี้ พูดซะหรู จริงๆก็ ก็มีแกงถ้วย สลัดจาน ผลไม้ชิ้น กะเลือกได้ระหว่างอาหารจานเดียวหรือแซนด์วิช
กินกันตาย เติมได้เขาไม่ว่าแต่ต้องปั๊มบัตรอีกที เพราะคนทำอาหารก็ประมูลเข้ามา เก็บตังค์ตามหัวที่กิน
รถกลับเข้าเมือง
ตกเย็นก็มีรถออกตั้งแต่ ๕ โมงทุก ๑๕ นาทีไปยังจุดต่างๆในเมือง รถรอบสุดท้ายทุ่มนึง
รถรอบแรกจะแน่นเป็นพิเศษ คนที่นี่รีบกลับบ้านมาก ห้าเป๊งดึงปลั๊กเลย
พวกที่ออกมาจากตึกสายๆส่วนใหญ่ก็ต่างด้าวอย่างอีป้านี่แหละ ไม่มีลูกผัวให้กลับไปหา ก็ไม่รู้จะรีบกลับทำไม
ยามค่ำ
เมอร์ซีเดสคนยากรุ่นใช้แหนบ&ดีเซลก็กระเ้ด้งกระดอนกลับเข้าเมืองมาเรื่อยๆ กลับมาถึงโรงแรมตอนค่ำก็เข้าห้อง ดูซีรี่ส์ที่ลักลอบเอาเข้ามาอย่างทุลักทุเล
ก็แจ้งให้ทราบเป็นทางการหน่อยละกันว่า เดือนนี้ป้างดงานการกุศล กาล่าดินเนอร์ ด้วยภาระกิจอันรัดติ้ว
ป.ล. อย่าให้เงินเดือนออกนะมึง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น