ทำไมถึงทำกับฉันได้

อาทิตย์นี้เป็นอาทิตย์ที่สองแล้วที่ป้าเริ่มทำงาน รู้สึกว่าอะไรๆยังไม่เป็นใจเท่าไหร่ เนื่องจากนาย(ตัวจริง)ยังไม่มา นาย(แถวนี้)ก็ใช้ทำโน่นนี่ที่ป้าว่าไม่เหมาะ (เอ่อ เขาไม่ได้ทำมิดีมิร้ายป้าหรอก อย่าคิดมากไป)

แถมป้าก็ยังเรียนรู้ช้า (ปัจจัยภายใน: เผอิญเกิดมาสวยใสไร้สมอง) ส่วนปัจจัยภายนอกก็ตอนนี้ไม่มีสังกัด เวลาไปถามอะไรใคร ขอข้อมูลใครก็เลยได้แต่คำตอบว่า “แล้วหล่อนจะรู้ไปทำไม มัน confidential ให้ดูไม่ได้หรอก”

โห โรงงานอยู่ที่ไหน ผลิตอะไร เดือนละเท่าไหร่นี่ยัง confidential งั้นฉันคงทำอะไรให้ไม่ได้แล้วล่ะ

onion-im dead

ฝั่งหนึ่งก็บอกป้าว่าไม่ต้องรีบร้อนไป นายกลับมาค่อยว่ากัน คนเรามันต้องรู้ job description ก่อน ซึ่งป้าก็เห็นด้วยนะ แต่อีกทาง นายที่ป้าก็ไม่รู้ว่าใช่นายจริงป่าวก็ให้ทำสรุปโน่นนี่ ทำ presentation เขียนรายงาน status update ซึ่งป้าก็นะ มาทำงานได้อาทิตย์เดียว โรงงานยังไม่ได้รู้แม่แต่ชื่อ เลยแบ๊ะๆมาก ว่าให้อิฉันเนี่ยนะ ทำpresentationสรุปสถานการณ์โรงงาน ซึ่งพอป้าพยายามทำไปให้ก็ โดนด่า (อืม อันนี้ป้าก็รู้อยู่แล้วล่ะว่ามันไม่ได้เรื่อง ) เขาว่าโง่หรือบ้าตัวเลขผิดขนาดนี้เอามาพรีเซนท์งานประชุมใหญสามัญประจำปีได้ไง

โห นายขา my point exactly เลยคร้า งานใหญ่ขนาดนี้ให้คนเข้าใหม่ทำเนี่ยนะ แถมตัวเลขพวกนี้ข่อยเอามาจากรายงานที่นายให้เด้อค่าเด้อ

ผิดซัดๆจังซี้ เขาส่งรายงานซุเดือน จังได๋บ่บอกเขาล่ะตั๊ว ซิไห่ข้อยเฮ็ดจั๋งได๋น้อ บาดนิ (เวลาคิดจะเสียงในฟิล์มหน่อยนะคร้า เผอิญมาโตแอลเอ)

พอมาฝ่ายในทีม ป้าก็ทำอะไรไม่ได้ดังใจเพื่อนร่วมทีมซึ่งเป็น โปร Project Manager กันหมด อันนี้เขาโปรจริงๆนะ ป้าเห็นงานที่เขาทำแล้วก็อึ้ง คือเรามันลูกทุ่งง่ะ สาวโรงงานจริงๆ เห็นอะไรไม่ได้ไม่ดีก็ทำๆไป แก้กันไป ไม่เคยทำแบบต้อง มองมุมสูง ดูวิชั่นเป็นไง strategy ทางไหน analyze กระบวนการทำงานก่อน วิเคราะห์ stakeholder ให้เสร็จ ทำ risk assessment แบบตาราง A0 ยังprint ไม่หมด แล้วถึงมาดราฟโพลิซี อะไรงี้ป้าเห็นแล้ว โห อึ้งไป ทำไมเด็กๆเดี๋ยวนี้เก่งจัง ป้าคงไม่ไหว ต้องเรียนจากหนูอีกเยอะ อันนี้เราโง่จริง ก็ยอมรับกันไป

b_08

ไอ้ส่วนอีกฝั่ง ฝ่ายบุคคลตัวอิจฉา ที่ทำให้ชีวิตป้ายากเย็นก็ยังไม่เลิกลา คิดว่าไม่ต้องยุ่งกันอีกแล้วเชียว แต่ก็ยังไม่วาย ตั้งแต่เรื่องค่ารถ รถรับส่ง วีซ่า ตั๋วเครื่องบิน สารพัด เซ็งสุดคือทั้งหมดนี้เป็นเรื่องงาน ไม่ใช่เรื่องส่วนตัวที่ป้าไปรบกวนเขาเลย ขอป้าระบายหน่อยเหอะนะ

เรื่องง่ายๆ…ไปกลับโรงงาน

292943964_2bb667933d

ป้ามีต้องเข้าประชุม 7 โมงเช้า ต้องหาทางมาให้ถึงโรงงานก่อนเวลารถรับส่งพนักงานปกติ ซึ่งป้าก็รีบแจ้งบุคคลเลยว่างี้นะงี้นะ ช่วยจัดหารถให้อิฉันหน่อยได้ไหมคะ หรือให้ทำไงกรุณาแจ้ง มาอยู่ใหม่ไม่รู้ระเบียบคร้า

แล้วอีป้าก็รอไป เขาไม่สน เพื่อนบอกส่งเมล์ ส่งเมล์ ให้มีหลักฐาน

หลังจากอีแมวแล้วอีแมวอีก อีป้าก็เดินไปตามเรื่องด้วยร้อนใจ แต่ชีไม่อยู่ที่โต๊ะ ไปสามรอบจนรปภ.ช่วยเดินหาก็ไม่เจอ แล้วพอ ๕ โมงชีกลับมาที่โต๊ะ ก็สะบัดตูดกลับบ้านไปไม่สนทั้ง post it (physical) ทั้ง msg (electronical) ที่ป้าติดไว้

อ้าว แล้วป้าทำไงเนี่ย b_02 ประชุมเช้าอ่ะ

ไม่มีทางเลือกก็ต้องจับรถมาเอง โดนไปสองแสนเก้า (เงินเราก็ราวๆ ๔๕๐ โรงงานป้าอยู่ปริมณฑล)

วันต่อมาก็มีอีก ประชุมเลิกสามทุ่มป้าขอรถ คราวนี้ชีบอกไม่มีรถพนักงานให้ ให้ป้ากลับแท็กซี่แล้วมาเบิกเอา ป้าก็เฮ้ย คือจากโรงแรมในกทม จับแท็กซี่มาปราจีนฯเนี่ยไม่ยาก แต่ปราจีนฯหาแท็กซี่กลับกทม.ตอนสามสี่ทุ่มเนี่ยนะ แล้วแท็กซี่ถ้าเขาไม่พูดปะกิดกะป้า ใครจะช่วยเนี่ย รปภ.ก็พูดปะกิดไม่ได้ ป้ามิต้องนอนโรงงานเรอะ ในที่สุดเขาก็เรียกให้

แต่ก็กรรมของนางเอก คนที่ไม่รู้ใช่นายหรือเปล่ามาเห็นเข้าก็ต่อว่า ว่าไม่ใช่เงินตัวเองก็ใช้สุรุ่ยสุร่าย ทำไมไม่ขอใครขาติดรถเข้าเมืองไปก่อนแล้วต่อรถเอา

โถ นายจ๋า

อีนี่ ฉานก็ให้บุคคลเขาจัดให้ มาทำงานได้เจ็ดวันอิฉันก็ไม่รู้จักใคร ลองบากหน้าไปถามมาแล้วคนนึงเขาก็บอกว่าบ้านเขาไม่ได้ไปทางนั้น (จะ expat หรือเด็ก intern ถ้าเป็นฝรั่งจะได้รถประจำตำแหน่งและบ้านในเขตมีอันจะกิน D2 ซึ่งไปคนละทางกับเขตแรงงานอย่างป้า D4, D7) แต่เขาก็บอกว่าไปปล่อยไฮเวย์ได้ ครึ่งทางแล้วยูหาแท็กซี่กลับเอง ซึ่งจะให้สวยๆอย่างป้าโบกแท็กซี่ข้างทางตอนสี่ทุ่มเนี่ยนะ เพือ่นคนเวียดนามเองยังไม่ทำเลย

เซ็ง จริงๆ แง่ง แง่ง แง่ง

gloomy_bear_027

เรื่องลำบากขึ้นมาหน่อย…ประชุมนอกสถานที่

departuresES0802_428x269_to_468x312 SuperStock_1848-212047

ต่อมาป้าก็มีอีก เมล์ด่วนให้ตามนายไปประชุมต่างด้าว ป้าก็รีบแจ้งคุณเลขานายซึ่งในอีแมวนอกจากป้าก็มีชื่อเขา cc อยู่คนเดียว ว่า

คุณคะ ช่วยชี้แนะอิฉันหน่อยค่ะ ไม่เคยเดินทางออกนอกประเทศ สามารถจะรวบให้อิฉันไปพร้อมๆกับคนอื่นๆในทีมที่ออกตั๋วไปแล้วได้ไหมคะ

ปรากฏว่าอีแมวเด้งมาทันทีว่า

ที่นี่ Nืormally ไม่มีใครมี personal assistant  ทุกคนทำ travel เอง เธอต้องบินไปลงแอร์พอร์ต…

มาสั้นๆได้ใจความว่าช่วยได้แค่ชื่อแอร์พอร์ตปลายทาง ฮ่วย

onion-die die

ป้าก็ต้องไปหาฝ่ายบุคคลส่วนกลางอริเก่าที่มีปัญหาเรื่องโรงแรมกันหมาดๆ (สัญญาจ้างตกลงให้ค่าโรงแรมป้าอย่างนึง แต่พอมาถึงแล้วบอกว่ามันมีนโยบายอยู่ว่าทุกคนต้องพักห้องราคาเท่านี้เท่านั้น ซึ่งน้อยกว่าที่ตกลงกับป้าไปอีก ๒๕% ก็เลยทะเลาะกัน  สุดท้ายป้าก็ต้องยอมเพราะเขาบอกว่าป้าต้องเคารพนโยบายบริษัท ) ว่าจะไปประชุมที่เนี่ย ทำยังไง ซึ่งแน่นอนบุคคลก็บอกทันทีว่าไม่ใช่หน้าที่ เลขาแผนกป้าต้องทำสิยะ ซึ่งคุณเลขาคนเดิมก็สวนมาว่า ชีอยู่แผนกฉันหรือเปล่ายังไม่รู้ นายไม่ได้บอกไว้ เพราะฉะนั้นส่วนกลางนั่นแหละทำไป

สรุปจองตั๋วให้ได้แต่ไม่ออกให้นะ รอมีนายซะก่อน นายต้องเซ็นให้ถึงจะออกตั๋วได้  อืม great!

ก็ไม่จบอีก คนที่ไม่รู้ใช่นายหรือเปล่า (คนเดิมนั่นแหละ) มาเห็นเข้าก็ต่อว่าอีกแล้วว่า แหมติดหรูนะยะ บินทีจี ไม่รู้จักเซฟให้บริษัท ไมไม่บินลุฟฮันซ่า

เอ่อคุณคะ

ตั๋วนี่ อิฉันไม่ได้จองเองค่ะ บุคคลเขาจองให้ มันมีวันละไฟล์ท ทีจีเท่านั้นค่ะ นี่อิฉันก็บิน Y นะคะ ที่อื่นถ้าบินสิบยี่สิบชั่วโมงยังงี้เขาให้บินบิสซิเนสแล้วค่ะ จะเอาอะไรก็อิฉันอีกคะ

แล้วโรงงานหลังเขานี่ก็ไปยากเย็น ต่อเครื่องสามลำแล้วยังต้องต่อรถไฟตามด้วยแท็กซี่อีกที แม่จะรอดไหมนี่ ไม่มีใครให้เกาะเลยเพราะ ถ้าไม่ไปล่วงหน้า (มีวันหยุดยาวสามวันก่อนหน้าประชุมพอดี) เขาก็อยู่เที่ยวก่อนกลับหรือบินไปที่อืนต่อ ส่วนอีป้ายังติดโปรลาไม่ได้ อดเที่ยวโดยปริยาย

onion cloudy

ลำบากกว่านี้อีก…ติดต่อราชการ

loc_germanembassy_det_103

ไปตปท.เนี่ยมันก็ต้องทำวีซ่าใช่ป่ะ ซึ่งคดีเก่าบุคคลก็ยังไม่ได้สะสางให้ป้า - คือวีซ่าเข้าเวียดนามเนี่ยก็ยังไม่ได้ คราวนี้อีป้าจะเอาอีกใบละ แถมโดนจัดหนักวีซ่าเยอรมัน โค-ตะ-ระ requirement เยอะ (อีกแหละ สาวสวยยังโสดสัญชาติไทย ไปขอเองอภิมหายากส์)

บุคคลก็แสนดี ตอบป้าทันทีว่ากงสุลเยอรมันเขาต้องเดินเรื่องเอง ที่นี่(บุคคล)แนะนำให้ไม่ได้เพราะไม่เคยทำให้ใคร เอาเวปไซท์ไป

แหม ขอบพระคุณค่ะ อุตส่าห์ให้เวปมา หาเองหายากนะเนี่ย จริงๆแล้วมีคนไปประชุมคราวนี้เป็นสิบ ป้าไม่เข้าใจจริงๆว่าเขาไม่มีเอกสารจัดเซ็ทไว้แล้วมั่งเหรอว่าต้องใช้ใบรับรองอะไรจากบริษัทบ้าง

ป้าก็ด้นเน็ตไปถามคนอื่นไป แล้วเอาลิสต์ไปให้บุคคลประมาณสิบรายการที่สถานฑูตขอ เขาก็ให้เอกสารมาแผ่นกับอะไรไม่รู้เป็นภาษาบ้านเขามาปึก ป้าก็นะ ไปคุณคะกับเขาอีกทีว่า เอ่อ เอกสารส่งสถานฑูตเนี่ย ถ้าไม่ใช่ภาษาปะกิดหรือเยอรมันให้แปลเป็นเยอรมันเด้อ ป้าขอเวิร์ชั่นอังกฤษไปด้วยได้ไหม (ที่คุณเคยทำให้คนอื่นไปแล้วน่ะ ) เขาก็บอกไม่มี คนอื่นไม่เคยขอ ทำไมจะใช้ภาษาเวียดนามไม่ได้ “ที่นี่มันเวียดนาม ต้องใช้ภาษาเวียดนามน่ะถูกแล้ว”

onion-suay ฮ่วย บ่แม่นขอวีซ่าเวียดนามน้อ ไปสถานฑูตเยอรมันเด้อ

เรื่องไม่เป็นเรื่อง…สิทธิลูกจ้าง

need-travel-insurance Travel-Medical-Insurance

ปกติลูกจ้างที่ยังโปรเบชั่นอยู่จะไม่ได้รับสิทธิคุ้มครองตามเรื่องประกันต่างๆ แต่ก่อนป้ามาทำงานมีการเจรจากันว่าเริ่มทำงานปุ๊บขอให้ประกันปั๊บเพราะงานโรงงานมันอันตราย และอยู่ๆโรงงานก็มายืดเวลาโปรจาก ๓ เดือนเป็น ๖ เดือน พอถึงเวลาเซ็นสัญญา เขาก็ไม่ให้ประกันซะงั้น ป้าก็ไม่ยอม เพราะคุยกันแล้ว ทะเลาะอยู่เป็นอาทิตย์ กว่าจะยอมใส่ในสัญญาให้ ป้าก็คิดว่าจบแล้ว

ต่อมาเขามาขอให้เซ็นสัญญาใหม่ เพิ่มข้อบังคับการขนย้ายบ้าน ซึ่งป้าว่าไม่แฟร์เท่าไหร่ เพราะป้ามาแล้วง่ะ จะมาแก้สัญญาหลังจากที่ย้ายมาเนี่ยะนะ ป้าก็ไม่ยอมเซ็นตัวใหม่ให้ เรื่องก็ค้างๆอยู่

พอต้องไปสถานฑูตทำวีซ่า เขาก็ขอดูใบประกัน ป้าก็ติดต่อบุคคลขอใบประกัน

ปรากฏว่ายังไม่ทำให้จ้า และยังจะไม่ทำให้ด้วยจนกว่าบ้าจะเซ็นสัญญาใหม่ให้

คือสุดยอดน่ะ เซ็งที่สุดของความเซ็ง

แล้วมาทำให้ตอนป้าต้องเดินทาง มันก็เสร็จไม่ทันทำวีซ่า แล้วบุคคลก็บอกไม่ได้ว่าเสร็จวันไหน บอกได้แค่แล้วจะแจ้ง

ซึ่งสถานฑูตเนี่ยต้องนัดก่อน ถ้ามีคิวเขาจะออกอีทิคเก็ตให้ ไม่ใช่ไปได้ทุกวัน ป้าก็มีงานการทำ

เฮ้อ ไม่เข้าใจฝ่ายบุคคลจริงๆ

สรุปถ้าวีซ่าไม่ผ่าน ไม่ได้ไปประชุมนี่ ป้าว่าคงเป็นความผิดป้า ที่เรื่องแค่นี้ จัดการไม่ได้ ทั้งขึ้นทั้งล่องเรยตรู

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น