หาบ้าน ๑

วันหยุดแรกที่มาถึงก็ก็ออกตระเวนหาบ้านก่อนเลย ไม่ต้องสงสัยว่าทำไมป้าไม่ไปออกงานดาร์บี้ สังสรรค์แม่บ้านทหารบกกะใคร ก็การอยู่โรงแรมเนี่ยมันน่าอยู่ซะนี่กระไร

อินเตอร์เนตชั่วโมงละ 50,000VND++ ซักกกน.สักชิ้นพี่ก็ส่งบิล 85,000++

IMG_0540

จะซักเองก็ไม่รู้จะตากยังไงให้แห้งไอ้ห้องแอร์เนี่ย จะพาดกกน.ไว้ตามโคมไฟป้าก็เกรงใจแม่บ้าน

เฮ้อ เซ็ง

ว่าแล้วก็เตรียมตัวด้วยการ กิน กิน กิน ตุนพลังงานไว้สำหรับการมาเดินหาบ้าน

ผักครึ่งนึง อย่างอื่นครึ่งนึง ตามคำแนะนำของหมอหน่อย

IMG_0531 IMG_0530

ตามด้วย 1000Kcal cereal : ของโปรด granola ถั่วไฮโซ ผลไม้นิดหน่อย โปะด้วยเบอร์เช่อมูสลี่ โปะโยเกิร์ต แล้ว คน คน คน

IMG_0534 IMG_0538

ตามด้วยคาร์โบไฮเดรต & ไขมันอีกหนึ่งกอบ

IMG_0466 IMG_0465

IMG_0539  IMG_0462

เอ่อ แล้วก็ของคาวอีกรอบ f(. .;) แล้วฉันจะผอมได้ไงเนี่ย

พอ ๑๐ โมงก็เริ่มออกตัวจากโรงแรม

ที่แรก NKN street

อยู่ในระยะนั่งมอร์ไซ ๕ นาทีถึง อยู่ในซอยแคบๆ รอบๆโทรมๆ

ห้องชั้น ๕!! ซึ่งป้าต้องปีนบรรไดที่ดีไซน์มาสำหรับคนที่ตัวไม่กว้างไปกว่า๒ ฟุต ไม่งั้นตูดจะติดราวบรรได

กว่าจะถึงห้อง ป้าก็ต้องเสียบสายออกซิเจนแล้วอ่ะ โคตรเซ็ง

IMG_0475  IMG_0473

 IMG_0474 IMG_0470IMG_0471

ห้อง ๔-๕๐ ตรม. หนึ่งนอน หนึ่งน้ำ เฟอร์ฯ เน็ต เคเบิ้ลทีวี - ค่าเช่า $๕๐๐!!! ไม่รวมค่าไฟ จ๊าก

นี่มันไซ่ง่อนหรือนิวยอร์คเนี่ย ค่าเช่าแพงมากนะสำหรับห้องโทรมๆในตรอกจังซี้เนี่ย

ห้องที่ ๒ Calmette street

ห้อง ๔-๕๐ ตรม.

อันนี้ก็ประมาณ ๑๐-๑๓ นาทีมอไซ บนถนนเล็กๆ ตัวตึกสร้างใหม่อยู่ริมถนนเลย เป็นตึกหน้าแคบๆประมาณ ๓-๔ เมตรได้ (เทียบจากพี่ที่ยืนหน้าตึก) เสียงจากถนนดังน่ารำคาญเอาเรื่องอยู่

  IMG_0477IMG_0478

  IMG_0479 IMG_0480

ชั้น ๒ ห้องสตูดิโอ ๓x๖ ตรม. ค่าเช่า $๖๔๐

ชั้น ๓ ห้องหนึ่งห้องนอน ๔x๘ ตรม กั้นกระจกตรงกลางเป็นห้องนอนให้ ค่าเช่า $๗๕๐

b_02 จะแพงไปถึงไหนเนี่ย ไหนว่าเงินเดือนพนักงานออฟฟิซจนโทโฮจิมินท์ประมาณพันเหรียญไง แล้วใครอยู่วะเนี่ยห้องเล็กๆค่าเช่าสองหมืนเนี่ย

พอห้องในเมือง (Ben than market ) เห็นแล้วเครียด น้องเอเจ้นท์เลยพาไปนอกเมืองแถวสวนสัตว์ ซึ่งโดยเฉลี่ยก็ต้องพึ่งมอร์ไซหรือแท็กซี่ประมาณ ๓๐ นาทีมาที่จุดขึ้นรถ

ห้องที่สาม NVG street

ตึกอยู่ในถนนซอยย่านใกล้ตลาดสด (แบบน้ำแฉะๆเน่าๆอ่ะนะ) ประมาณ ๖๐๐ เมตร ก็อาจจะดีตอนหาซื้อของสด

เป็นตึกแถวใหม่ๆ เงียบๆ เป็นเหมือนบ้านคนทั่วไป หน้ากว้าง ๓เมตรครึ่ง ลึก ๘-๙ เมตร หนึ่งชั้นก็หนึ่งห้อง

หนึ่งนอน หนึ่งน้ำ เฟอร์ฯ เน็ต เคเบิ้ลทีวี - ค่าเช่า $๖๐๐.ไม่รวมค่าไฟ ถ้าซักรีดก็ ๒๕ เหรียญต่อเดือน

IMG_0481IMG_0482

ห้องที่ 4 NDC street

อันนี้ไปยากหน่อย ติดคลองเน่าๆที่ไหลลงแม่น้ำ ถนนกำลังก่อสร้าง ห่างจากที่แรกไม่มากแต่อยู่ในโซนเงียบๆ

ห้องลักษณะคล้ายๆกันคือเป็นตึกแถวที่รีโนเวทใหม่กว้าง ๔ม. ลึก ๑๐ ม.หนึ่งชั้นหนึ่งห้อง หน้าหันไปทางธนาคารของรัฐกับคลอง จัดผังค่อนข้างดี กว้างขวางและยังใหม่อยู่ เสียแต่ไม่มีที่ดูดควันกะเตา +เวฟ

หนึ่งนอน หนึ่งน้ำ เฟอร์ฯ เคเบิ้ลทีวี - ค่าเช่า $๖๐๐.ไม่รวมค่าไฟ, internet ถ้าซักผ้าก็ ๑ เหรียญต่อ ก.ก. ทำความสะอาดครั้งละ ๑๕ เหรียญ

IMG_0483 IMG_0484

IMG_0485 IMG_0486 

ห้องที่ 5 NVN street มูนไลท์

อันนี้ตอนไปก็ตื่นตาตื่นใจ ตึกอยู่ในซอย แถวโบสถ์ Notre dame เกือบจะตกไซ่ง่อนริเว่อร์อยู่แล้วแหละ รอบๆเป็นร้านอาหารญี่ปุ่นกับบาร์แบบแนวบูทีคหน่อย 

เข้าไปในตึกเหมือนเป็นแบคแพ็ค Bed& Breakfast อะไรประมาณนี้อ่ะนะ ได้ห้องเบอร์ ๔๔๔ (Si Si Si – die die die 555 ไม่ค่อยมงคลเท่าไหร่นะเนี่ย)พอเรามาเขาก็เกี่ยงกันให้พาเราไปดูห้อง ซึ่งเราก็ ไมวะ? หรือไม่อยากพูดอังกิดด้วย ท่าทางต้องส่งภาษามือพอควร

พอเดินขึ้นถึงรู้ ไอ้ ๔๔๔ เนี่ยไม่ใช่ชั้นสี่นะ มันชั้น๗

หรือจริงๆคือดาดฟ้าอ่ะ ทำหลังคาครอบคอนกรีตแล้วเอาเตียงมาวาง รอบๆก็เอาแผ่นแสลบต่อให้เดินได้เพื่อไว้ตากผ้าที่ซัก

โห สมกับชื่อตึก Moon light ให้ป้ามาอาบแสงจันทร์ กลางวันลมดี กลิ่นโอโม่หอมชื่นใจ มองไปเห็นวิว River front

แต่แบบว่านะ คือจะรอดหรือเปล่าตอนเดินขึ้นมา บันไดก็แคบแล้วตกออกนอกตึกเลยไง แผ่นแสลบก็ยวบยาบ อยู่บนดาดฟ้าเวลากลางวันคงจะร้อนโคตร อยู่ไม่ได้ ถ้าใครดูหนังเกาหลี จะเห็นว่านางเอกต้องเช่าห้องเล็กๆอยู่บนดาดฟ้าตึกช่างน่าสงสาร แต่ป้าจะบอกเลยว่าดาดฟ้าตึกในโซลน่ะยังน่าอยู่กว่าดาดฟ้าตึกในโฮจิมินห์มากมายนัก อันนี้ก็ไม่ถ่ายรูปห้องให้ดูละกันนะ ไม่อยากอยู่นานกลัวแสลบที่ยืนมันจะพังลงไป

จัดบรรยากาศอันสดชื่นของมูนไลท์อพาร์ทเม้นท์ไป

IMG_0488  IMG_0490

IMG_0487IMG_0489

ให้ไว้เป็นข้อมูล ห้อง ๔๐ ตรม บนดาดฟ้า ราคา ๕๕๐ เหรียญรวมทุกอย่างจ้า (ช่างกล้าเอามาปล่อยเช่า)

ห้องที่ 6 LTT street กรีนวิว เซอร์วิซอพาร์เม้นท์

ห้อง ๑๘ ตรม. ๗๐๐ เหรียญ ไม่รวมภาษี!!!!!  อันนี้ไม่ถ่ายรูปเลย ดูแล้วว่าอยู่ไม่ไหวแน่ๆ มันแพงเพราะตึกอยู่กลางเมือง รอบๆร้านอาหารญี่ปุ่นทั้งนั้น Nihonmachi อะไรงี้ มอร์ไซไปโบสถ์ Notre dame ประมาณห้านาที ตัวตึกเก่าๆแต่รอบๆน่าอยู่แต่ ตึกโคตรเล็ก ห้องแบบอยู่สามวันได้แต่จะอยู่ทั้งปีคงแย่ แถมบันไดแบบว่าฟุตครึ่ง (ป้าไม่ได้เว่อร์นะ เดินแบบต้องเบี่ยงๆอ่ะ) เป็นบันไดเหล็ก คือเจาะประตูเพื่อเชื่อมตึกแถวข้างๆต่อกันแล้วไอ้ตึกข้างที่จะอยู่เนี่ยก็ซอยหลายชั้นกว่า (เพดานต่ำ) เวลาข้ามตึก ชั้นมันก็ไม่ match กัน เลยต้องทำบันไดเหล็กให้ปีนขึ้นไป โคตรลำบาก กลับมาตอนง่วงหรือเมาคงไม่สามารถเอาชีวิตรอดได้ ห้องก็ไม่มีหน้าต่างหรืออะไร เปิดเข้าไปก็เตียงเลย ห้องน้ำมีตู้เสื้อผ้าเล็กๆให้ห้อยเสื้อได้สักสิบชุด คือห้องแบบหม่งก๊ก ฮ่องกงอะไรงั้นแหละ

ซึ่งหลังจากตรงนี้เราก็บอกน้องเอเจ้นท์ไปว่าอีกสองที่ที่เป็นห้อง ๓๐ ตรม. นี่เราไม่ไปดีกว่าเพราะไม่น่าจะอยู่ได้

ไปที่สุดท้ายของวันนี้

ห้องที่ 7 Lotus street

ห้องราวๆ ๗๐ ตรม.ได้อยู่ ๒ ห้องนอน ๒ น้ำ เฟอร์ครบ  เน็ต เคเบิ้ล เดือนละ ๗๐๐ เหรียญ

ตึกใหม่อยู่ในซอยเงียบๆชานเมืองติดแม่น้ำ ต้องนั่งมอร์ไซประมาณ ๓๐ นาทีเข้าเมืองไปนิวเวิร์ลด์ มีลิฟท์และบันไดก็กว้างดี สงบสบาย

IMG_0491IMG_0492 

IMG_0493 IMG_0496 

IMG_0494IMG_0495IMG_0497

น่าอยู่แหละ เสียแต่ไกลทุกสิ่ง ทั้งที่กินและที่ขึ้นรถ

ระหว่างไปดูห้องฝนก็ตกสลับแดดออก กว่าจะดูเสร็จบ่ายโมงก็กลับมาหลบแดดที่ห้อง ดูทีวี นอนงีบหนึ่ง

ว่าจะออกไปเดินเล่นแถวสวนแต่พอดีฝนตกลงมาก็เลย จ้มปุ๊กในโรงแรมจนค่ำๆฝนเหลือแค่ปรอยๆ

เดินตากฝนไปหาของกินที่ตลาด

IMG_0460 IMG_0504

รถเข็นขายข้าวโซย แม่ค้าบอกว่าเรียก เซม เซม น่าสนใจมาก เล็งไว้ขากลับจะแวะ ตอนเด็กๆ ข้าวโซยกะแบ๋งแบ๋วนี่เป็นของกินมาตรฐานที่กินบ่อยพอสมควร แต่ที่บ้านมันมีแบบเพลนๆอ่ะ ข้างโซยก็เป็นสีเหลืองจากถั่วทองซีก ที่ไซ่ง่อนจะมีสารพัดสี หุงแบบปนถั่ว ปนทุเรียนมาพร้อม เวลากินก็โปะน้ำตาล ถั่วบดงาบด ราดกะทิ ส่วนบั๋นแบ๋ว/แบ๋งแบ๋วที่บ้านเราก็เป็นแป้งเปล่าแล้วมาเติมออปชั่นหมูยอ หมูหยองก่อนราดน้ำ แต่ที่นี่จะใส่กู้งหมูปูไก่ลงในแป้งแต่ละถ้วย (เหมือนขนมถ้วย)เลย

IMG_0499 IMG_0502

นั่งกินยองๆ ถ้าในตลาดก็ดีหน่อยมีที่วางไม่ต้องถือ

IMG_0500 IMG_0501

ริมถนนก็เป็นร้านผลไม้ ดอกไม้ เหมือนตลาดสดทั่วไป

 IMG_0503  IMG_0505

ขากลับฝนก็ยังตกปรอยๆ แวะซื้อข้าวโซยไว้กินดึกๆ ราคานักท่องเที่ยวค่อนข้างแพงมาก

กล่องเล็กๆที่น้องตักอยู่นั่น (ไซส์สักครึ่งหนึ่งของกล่องโฟมบ้านเรา ใส่ข้าวประมาณ ๒ทัพพีได้ ไม่อิ่มจ้ะ) ราคา ๒ เหรียญ++

ที่++ คือ she ทอนเงินแบงค์ ๑๐๐๐๐ ดอง ที่เขาเลิกใช้แล้วมาให้เราด้วยไง เซ็งเล็กๆ เสียค่าโง่ไป ไม่รู้นี่หว่า

IMG_0506 IMG_0507

เดินเล่นกลางสายฝนจนมืด ก็กลับโรงแรม เริ่มไอ ค๊อกแค๊ก ปกติค่อนข้างหัวแข็งวันนี้ไหงไอก็ไม่รู้

IMG_0508 IMG_0509

IMG_0510 IMG_0511

สองทุ่ม ออกไปกินไอติมกะเพื่อน อยู่ในตรอกเล็กๆ ชื่อเซเรนาต้าหรืออะไรประมาณนี้ ไม่ได้ดู

IMG_0513IMG_0514

เป็นผับชากาแฟไอติม ปรับปรุงมาจากวิลล่าในย่านคนมีตังค์เก่าชานเมือง มี live performance ชั้นล่าง

  IMG_0512 IMG_0515 IMG_0516

IMG_0526IMG_0527

เราขึ้นชั้นบนเพราะจะคุยกัน อยู่ใกล้นักร้องมากคุยไม่รู้เรื่อง

       IMG_0523IMG_0520     

IMG_0529

เอาหลานมาด้วย ป้าๆโคตรทรมานเด็ก นั่งคุยกินกาแฟกันจนห้าทุ่ม หลานหลับคาโต๊ะต้องแบกใส่หลังลงบรรไดมา

จบวันด้วยการกอดหลานน้อยซ้อนท้ายเวสป้าเพื่อนกลับเข้าเมือง

จบไปหนึ่งวัน

พรุ่งนี้ป้าคงจะแค่นอนตื่นสายๆ ดูทีวีอยู่ที่ห้อง

ราตรีสวัสพี่น้องชาวไทย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น